สวัสดีค่ะ วันนี้นิ่มมาแบบแปลกหน่อยเพราะจะพาไปเที่ยวด้วยยยย…
ทำงานกันมาทั้งปีแล้ว ก็ต้องหาเวลาพักต้อนรับปีใหม่ สดใสๆ กันหน่อย แล้วจะพาไปไหนล่ะ
นิ่มชอบทะเล แต่ปีใหม่แบบนี้ไปที่ไหนคนก็เยอะเลยเรื่องไปทะเลใกล้กรุง พักผ่อนสบายๆ ทานอาหารทะเล ชิว ๆ ขับรถไปไม่ถึงชั่วโมงจากกรุงเทพ กับ
“สถานตากอากาศบางปู”สมุทรปราการ
ใกล้ๆแค่นี้เอง
ก่อนที่เราจะไปเที่ยวกันขอแต่งหน้าใสๆเพื่อไปถ่ายภาพสวยๆก่อน แล้วก็เที่ยวกัน ไปชมกันเลยค่ะ
เป็นไงกันบ้างหลังจากที่ชมกันไปแล้ว มีสอนแต่งหน้าง่ายๆพร้อมพาเที่ยวด้วยนะ แต่สิ่งสำคัญที่สุดในครั้งนี้ก็คือ การปกป้องผิวของเรา เพราะอากาศร้อน แสงแดด ทำร้ายผิวเรา หากไม่ปกป้องต้องมาคอยรักษาแพงยิ่งกว่าการป้องกันอีกค่ะ สำหรับผู้ช่วยของนิ่มในวันนี้ก็คือ
NIVEA Sun Protect & White Instant White and Smooth SPF50+ PA+++
และ
NIVEA Sun Protect & White Daily Body SPF50+ PA+++
เค้ามาพร้อมกับ SPF 50+ และ PA+++ ที่ปกป้องทั้ง UVA และ UVB
มาทำความเข้าใจกับค่า..กันก่อนจะได้กระจ่างมากขึ้น
แสงอาทิตย์ประกอบด้วยรังสี 3 ประเภทคือ รังสีอินฟราเรดหรือความร้อน , รังสีที่มองเห็นคือแสงสว่าง และรังสีที่มองไม่เห็นคือ UV ซึงรังสี UV ที่สามารถ ผ่านโอโซนลงมายังพื้นโลกได้คือ UVA1, UVA2 และ UVB รังสี UV ทั้งสามมีพลังทะลุทลวงที่ต่างกันและทำร้ายผิวในระดับที่ต่างกัน ไล่จากมากที่สุดคือ UVA1 , UVA2 ไปจนถึงน้อยที่สุดที่ UVB
รังสี UV ในแสงแดด มี UVA1 ถึง 75% , UVA2 มี 20% และ UVB เพียง 5% นอกจากปริมาณรังสีที่มีมากที่สุด UVA1 ยังมีคลื่นรังสียาวที่สุด ซึ่งถ้ายิ่งยาวมากหมายความว่าสามารถทะลุทำร้ายผิวได้ลึกมากกว่า ซึ่ง UVA1 นั้นทำลายได้ถึงโครงสร้าง DNA ของผิวเลย ความน่ากลัวของ UVA1 นอกจากปริมาณที่มากที่สุด ทำร้ายผิวได้ลึกที่สุด UVA1 ยังมีปริมาณแทบไม่แตกต่างกันไม่ว่าจะเช้ากลางวันเย็น แถมยังสามารถทะลุกระจก ผนัง เสื้อผ้า หมายความว่าแม้คุณจะสวมหมวกเสื้อแขนยาวปกปิด หรือนั่งอยู่ในอาคาร UVA1 ก็จะตามไปทำร้ายผิวคุณทุกที่!
UVA1 ทำร้ายผิวลึกและรุนแรงขนาดไหน?
ผิวหนังคนเรามี 3 ชั้น ชั้นหนังกำพร้า ชั้นหนังแท้ ชั้นไขมัน
ชั้นหนังกำพร้า (Epidermis) มีส่วนประกอบมากมาย และหนึง ในนั้นคือเซลล์สร้างเม็ดสีเมลาโนไซต์ (Melanocyte) ซึงรังสี UVB สามารถทำร้ายได้แค่ผิวชั้นนี้ รวมถึงกระตุ้นให้เกิดการสร้างเม็ดสีผิวส่วนเกิน ซึงทำให้เกิดผิวคล้ำ จุดด่างดำ และสีผิวไม่เรียบสม่ำเสมอ
ชั้นหนังแท้ (Dermis) มีส่วนประกอบสำคัญที่เรารู้จักกันดีคือเส้นใยคอลลาเจน และอีลาสติน ซึงรังสี UVA1 สามารถทะลุทำร้ายลึกได้ถึงผิวชั้นนี้ เมื่อคอลลาเจน และอีลาสตินถูกทำลาย ผิวหนังอ่อนแอ ขาดความยืดหยุ่น เกิดฝ้า ริ้วรอยย่นได้ง่าย และลึก
ชั้นไขมัน (Subcutis) เป็นส่วนรองรับผิวหนังให้คงรูปร่าง รับแรงกระแทก และสะสมพลังงานแก่ร่างกาย
นอกจากนี้ UVA1 ยังสามารถเปลี่ยนโครงสร้าง DNA สาเหตุการเกิดมะเร็ง แมลิกแนนท์ เมลาโนมา ( Malignant Melanoma ) ซึงเป็นมะเร็งผิวหนัง ชนิดอันตรายที่สามารถกระจายสู่อวัยวะอื่นได้
UVA1 นั้นอันตรายกว่าที่คาดคิด แต่ถึงจะร้ายเพียงใดเราก็ยังสบายใจได้ เพราะปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์กันแดดที่ปกป้องอย่างได้ผล แต่เราจะเลือกอย่างไรดีล่ะ?
UVA – กระตุ้นให้เกิดการย้อมเม็ดสีและทำให้ผิวแก่ก่อนวัย
UVB– ทำให้ผิวเกรียมแดดและเกิดผื่นแดง
SPF หมายถึง ระยะเวลาที่ช่วยป้องกันรังสี UVB
SPF 1 หมายถึง ช่วยป้องกันได้ 15 นาที
ดังนั้น SPF 50 หมายถึง ช่วยป้องกันได้ 50*15=750 นาที (12.5 ชั่วโมง)
SPF 50 + จึงหมายถึง ช่วยป้องกันได้ มากกว่า 12.5 ชั่วโมง
PA หมายถึง ค่าดัชนีปกป้องผิวจากรังสี ไม่ได้แสดงเป็นค่าตัวเลข เป็นค่า + ยิ่งมีจำนวน + มากยิ่งปกป้องได้มากขึ้น
ข้อแนะนำการใช้กันแดด
>>>กิจกรรมในร่มควรใช้ SPF 15-20
>>>กิจกรรมกลางแจ้งควรใช้ SPF 30 ขึ้นไป
ไม่งงกันใช่มั้ย??? นั่นก็หมายถึงว่า NIVEA Protect & White Whitening Sun Serum ช่วยป้องกันรังสี UVB มากกว่า 12.5 ชั่วโมง แถมเค้ายังช่วยป้องกัน UVA1 ได้อีกด้วย นอกจากนี้ยังช่วยคงความชุ่มชื่นให้กับผิว เนื่องจากวิตามินอีและเทคโนโลยี Hydra IQ
มาทดสอบความมันกัน…เต้นให้มันหลุดโลก 555+ ไม่ใช้น้าาาา หมายถึงเวลาทาแล้วหน้าจะมันเยิ้มรึเปล่า???
ทดสอบด้วยการทาลงบนผิว ฝั่งขวาเนื้อเซรั่มสีชมพูอ่อนๆ คือ NIVEA Sun Protect & White Instant White and Smooth SPF50+ PA+++ (หน้า) ส่วนฝั่งซ้ายเนื้อเซรั่มสีขาว คือ NIVEA Sun Protect & White Daily Body SPF50+ PA+++(ตัว)
ประสิทธิภาพการปกป้องเยี่ยมแบบนี้ หลายคนคงคิดว่าจะเหนียวมั้ย หนืดๆ ทาแล้วไม่สบายผิวรึเปล่า???
จะเห็นว่า NIVEA Sun Protect & White Instant White and Smooth SPF50+ PA+++ (หน้า)
ด้วยอนุภาคขนาดเล็ก ทำให้ซึบซาบเร็ว บางเบา ไม่เหนียวเหนอะหนะ และช่วยปรับผิวให้สว่างกระจ่างใสขึ้น ใช้เป็นรองพื้นก่อนแต่งหน้าได้เลย
หลังจากที่เซรั่มแห้งซึมแล้วก็ทดสอบด้วยกระดาษซับมัน
ผลก็ตามภาพเลยค่ะ…
สรุปผลหลังใช้
NIVEA Sun Protect & White Instant White and Smooth SPF50+ PA+++ (หน้า)
เนื้อเซรั่ม-สีชมพูอ่อนๆ กลิ่นไม่ฉุน เกลี่ยต่างมากๆ ซึบซาบเร็วอย่างที่เค้าว่ากันจริงๆ ไม่ทิ้งความมันหลังทา มีเพียงส่วนเกินเล็กน้อย ดังที่เห็นในภาพ (ทดสอบด้วยกระดาษซับมัน ภาพบน)
ประสิทธิภาพการป้องกันแสงแดด – มองด้วยตาเปล่าไม่เห็นว่าผิวหน้าคล้ำลงแต่อย่างใด แต่ที่สัมผัสได้คือ ไม่แสบหน้า ปกตินิ่มโดนแดดจัดๆจะรู้สึกแสบหน้ามา แสดงว่าเค้าช่วยปกป้องผิวได้เป็นอย่างดี
อื่นๆ-ชอบตรงที่ทำให้ผิวสว่างกระจ่างใสขึ้นทันทีที่ใช้ แต่งหน้าแล้วไม่ก่อให้เกิดปัญหา ไม่เกิดคราบขาว หรือหน้ามันเยิ้ม เพราะเค้าซึมซาบเร็ว เวลาเหงื่อไหล ไม่รู้สึกแสบตาเลยล่ะคะ
NIVEA Sun Protect & White Daily Body SPF50+ PA+++(ตัว)
เนื้อเซรั่ม-สีขาว กลิ่นไม่ฉุน ไม่เหนียวข้นแบบครีมกันแดดทั่วไป เกลี่ยกับผิวง่าย ไม่เป็นคราบขาวติดเสื้อผ้า ซึบไปเลยหลังทา สบายผิว แต่ยังคงความชุ่มชื่นให้ผิวอยู่
ประสิทธิภาพการป้องกันแสงแดด – มองด้วยตาเปล่าไม่เห็นว่าผิวหน้าคล้ำลงแต่อย่างใด แต่ที่สัมผัสได้คือ ไม่แสบผิวอีกเช่นกัน แสดงว่าเค้าช่วยปกป้องผิวได้เป็นอย่างดี
อื่นๆ-ชอบตรงที่ไม่เหนียว รู้สึกไม่ต่างกับการทาบำรุงผิว สบายผิวดี
สำหรับวันนี้นิ่มคงต้องขอตัวไปก่อน เที่ยวให้สนุก อย่าลืมดูแลตัวเองและปกป้องผิวด้วย
NIVEA Sun Protect & White Instant White and Smooth SPF50+ PA+++ (หน้า)
และ NIVEA Sun Protect & White Daily Body SPF50+ PA+++(ตัว)
กันนะคะ บ๊าย บาย…แล้วพบกันใหม่
ใครที่ยังไม่จุใจกับข้อมูลที่ได้รับ สามารถสอบถามกันได้ที่
แวะไปพูดคุยกับนิ่มได้ที่
^_____________^
No Comments